ทว่าอีก 4 เดือนต่อมา เหมือนฟ้าฟาดลงกลางใจผู้คนในพระนคร ด้วยคำประกาศของสำนักพระราชวังเรื่องพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ยกเลิกพิธีหมั้น เพราะเหตุที่พระอัธยาศัยมิต้องกัน จึงเหลือไว้เพียงเรื่องราวในความทรงจำของความรักที่สูญสลายลงในช่วงเวลาอันสั้นอย่างน่าเสียดาย
“ชีวิตของเด็จป้าเป็นชีวิตที่น่าศึกษามากที่สุด จากม.จ. หญิงธรรมดา ที่มิเคยพบพานความรัก ได้มาพบรักและเป็นทั้งพระคู่หมั้นกับผู้ที่อยู่สูงสุดของประเทศอย่างมิได้คิดฝันมาก่อน เด็จป้าย่อมถวายความรักครั้งแรกและครั้งเดียวจนหมดหัวใจ”
สิ่งที่คุณหญิงแบ๋วจดจำได้ดีเกี่ยวกับอดีตพระวรกัญญาปทานนั้น คือท่านทรงใช้ชีวิตอย่างสงบ ปฏิบัติตนอย่างเรียบง่าย ทั้งยังคอยอบรมบ่มเพาะลูกหลานให้รู้จักการวางตนที่ดี…
“สิ่งที่จำได้คือเด็จป้าทรงเสด็จไปฟังเทศน์ที่วัดเทพศิรินทราวาสทุกวันพระ ไม่ทรงเสวยเนื้อสัตว์ทุกชนิด ถ้าเป็นวันโรงเรียนหยุด ท่านจะพาดิฉันไปวัดด้วย ดิฉันรักและภูมิใจในเด็จป้ามาก ท่านพระทัยดี เป็นผู้ที่เชื่อมั่นในตนเอง และมีวิธีสอนลูกหลานที่ไม่เหมือนใคร ครั้งหนึ่งตอนดิฉันเป็นเด็ก ถอดรองเท้าสลัดไปคนละทิศละทาง ท่านเห็นก็หยิบมาวางคู่กันให้เรียบร้อย ดิฉันตกใจและเสียใจมาก จากนั้นไม่ว่าจะเป็นรองเท้าหรือข้าวของอื่นๆ ดิฉันจะจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ เด็จป้ามักจะบอกว่า ทำอะไรอย่าให้เสียชื่อนะ เราเป็นหลานพระสังฆราชด้วย…” (คือพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพสมเด็จพระสมณเจ้ากรมพระวชิรญาณวโรรส-เป็นน้องของเสด็จปู่ของคุณหญิงแบ๋ว)
และเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.๖ ทรงพระราชนิพนธ์ละครไว้หลายเรื่อง และบางเรื่องก็ทรงแสดงเองด้วย พระองค์ท่านให้หม่อมเจ้าหญิง ศรีสอางค์นฤมล ได้แสดงด้วยหลายเรื่อง คุณหญิงมีรูปถ่ายที่ได้เก็บไว้อย่างดีอยู่หนึ่งเรื่องคือ เรื่อง ‘เจ้าข้า, สารวัด!’ ต้องบอกว่าภาพในอดีตของครอบครัวคุณหญิงแบ๋วจากเท่าที่เราได้ฟังนั้นมีแต่ภาพของความทรงจำที่สวยสดงดงาม รวมทั้งภาพถ่ายที่คุณหญิงแบ๋วนำมาให้ดูก็ล้วนยิ่งฉายชัดว่า ทั้งท่านแม่ ท่านป้า และท่านน้าของคุณหญิงแบ๋วนั้นเป็นกุลสตรีที่มีทั้งความงดงามและดูทันสมัย มีความปราดเปรียวกว่าหญิงสาวคนอื่นๆ ในยุคก่อนน่าจะเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มหญิงสาวที่หัวก้าวหน้าและมีความทันสมัยในเรื่องของการแต่งกายอีกด้วย
นอกจากเรื่องราวในครอบครัวที่คุณหญิงแบ๋วเก็บไว้ในความทรงจำ ภาพในอดีตของเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ก็แทรกผ่านเข้ามาอีกภาพคือ
“ดิฉันได้มีโอกาสเห็นภาพบ้านเมืองตอนรัชกาลที่ ๘ สิ้นพระชนม์ จำได้ว่าบรรยากาศเศร้ามาก ประชาชนใส่สีดำเต็มเมืองไปหมด ตอนนั้นแม่จะยังเด็กแต่ก็รู้สึกรักท่านรักในหลวง บ้านเมืองดูเศร้าไปหมด นี่คือสิ่งที่คนสมัยก่อนแสดงออกว่ารักเจ้ารักนายมาก พอเติบโตมามีครอบครัวมีลูกชาย ๒ คน มีหลานอายุ ๕ ขวบหนึ่งคน ดิฉันก็จะสอนให้พวกเขารักบ้านเมือง มีความจงรักภักดี และทำสิ่งดีๆให้บ้านเมืองเรา”