Sunday, May 19, 2024
ชื่นชมอดีต บทความแนะนำ

หอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย สัมผัสประวัติศาสตร์มิติใหม่ ล้ำสมัย อลังการ  

นิตยสารอนุรักษ์ ฉบับ พฤศจิกายน 2566
เรื่อง: เจนจบ ยิ่งสุมล
ภาพ: WHITE POST GALLERY

หอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย

สัมผัสประวัติศาสตร์มิติใหม่ ล้ำสมัย อลังการ

หอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย (Phetchabun Intrachai Archaeology Hall) ตั้งอยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ รูปแบบการนำเสนอมีทั้งแสง สี เสียง ภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหว ตลอดจนข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่จัดแสดง เป็นมิติแห่งความแปลกใหม่  สมสมัย ด้วยเทคโนโลยี่ในยุคนี้

ปฐมบทจุดกำเนิดความเป็นมาของหอโบราณคดีแห่งนี้ เริ่มมาจากศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์หลังเก่าที่ใช้งานมาตั้งแต่ พ.ศ. 2505 ผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนถึง พ.ศ. 2550 เป็นเวลา 45 ปีเต็ม เมื่อได้สร้างศาลากลางหลังใหม่ขึ้นมาแทนหลังเก่า ทางเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ จึงได้ขอทางจังหวัดใช้อาคารหลังนี้ ในลักษณะของหอโบราณคดี ซึ่งมีข้อบังคับ ข้อกำหนด และกฎเกณฑ์ น้อยกว่าพิพิธภัณฑ์ เนื้อหาการจัดแสดงส่วนต่างๆได้นำจุดเด่นเรื่องราวทางประวัติศาสตร์  โบราณคดี วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตผู้คนของจังหวัดเพชรบูรณ์ ในแต่ละช่วงเวลามาจัดแสดงไว้ เป็นหมวดหมู่ ไม่ปะปนกัน อาศัยเงื่อนเวลาเป็นรอยเชื่มต่ออย่างกลมกลืน

หลายคนคงสงสัยว่า “เพ็ชรบูรณ์อินทราชัย”  คืออะไรมาจากไหน แท้จริงแล้วชื่อนี้คือพระนาม ของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย พระราชโอรสองค์ที่ 72 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 หอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย มีพิธีเปิดให้ชมอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2561 โดยพลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี

ต่อมาสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเยี่ยมชมหอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ.2561 โครงการนี้เริ่มลงมือสร้าง เมื่อพ.ศ. 2554 เสร็จเมื่อ พ.ศ. 2561 โดยการก่อสร้างแบ่งเป็น 7 ส่วน รวมเวลาตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ ใช้เวลาถึง 11 ปี เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งท่องเที่ยว ที่ทรงคุณค่า สวยสดงดงาม และสมบูรณ์แบบ เป็นแหล่งบันทึกและจัดแสดง เหตุการณ์ที่เป็นประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ประเพณี อันเป็นรากเหง้า ตัวตน ของคนเพชรบูรณ์ อย่างแท้จริง

            หากมีเวลาท่านไม่ควรพลาดการแวะชมส่วนต่างๆในหอโบราณคดีแห่งนี้ ที่แต่ละพื้นที่ล้วนจัดแสดง เรื่องราวที่แตกต่างกันไป แต่ครบครันทุกแง่มุม

หุ่นขี้ผึ้ง สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย ได้ถูกจัดแสดงไว้อย่างสง่างามสมพระเกียรติ และการอัญเชิญพระนามนี้มาเผยแพร่ เพื่อให้คนเพชรบูรณ์ได้ตระหนักว่าเพชรบูรณ์ของเราเคยเป็นหัวเมืองสำคัญมาแต่ในอดีต ถึงขนาดมีพระราชโอรส ของพระมหากษัตริย์ไทย เสด็จมาเยือนเมืองนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย ทรงโปรดฯการเล่นพิณฮาร์ปหรือพิณฝรั่งเป็นอย่างมาก และได้ทรงนำเข้ามาเล่นในเมืองไทยเป็นครั้งแรก ทางจังหวัดจึงได้นำพิณฮาร์ปมาเป็นตราสัญลักษณ์ของศูนย์โบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัยด้วย

บางส่วนของที่นี่ ยังแสดงถึงความรักแผ่นดินเกิด และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชาวเพชรบูรณ์ ดูได้จาก บรรดาโบราณวัตถุ สิ่งของล้ำค่าต่าง ๆ ซึ่งเป็นสมบัติส่วนตัว ที่ประชาชนนำมามอบให้ หอโบราณคดีแห่งนี้ นอกจากนั้น ยังมีการจำลองจารึกต่าง ๆ ที่พบอยู่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ สิ่งของสำคัญที่จัดแสดงไว้ เช่น รูปแกะสลักหินจากศรีเทพ นาฬิกาตั้งพื้นของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพฯ ตู้พระธรรมโบราณ แสตมป์ที่มีตราประทับชื่อเพชรบูรณ์และหล่มสักฯลฯ

สำหรับตำราพิชัยสงครามในอดีตที่ค้นพบมี 2 เล่ม เป็นฉบับรูปภาพ และฉบับตัวอักษร โดยฉบับรูปภาพมีความสมบูรณ์มาก ถือเป็นเล่มล่าสุดที่เพิ่งถูกค้นพบ รูปเล่มเป็นสมุดข่อยไทดำ หรือสมุดข่อยลงฝุ่นสีดำ ส่วนอักขระเป็นอักษรไทยช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ส่วนฉบับตัวอักษรคาดว่าเป็นฉบับคัดลอกในภายหลัง ความสมบูรณ์ของตำราพิชัยสงครามฉบับรูปภาพ สมบูรณ์ในเรื่องของการเก็บรักษา ความคมชัดของรูปภาพ สมบูรณ์มากในเรื่องร่องรอยของการเคยถูกใช้งาน ซึ่งโดยปกติแล้วไม่ค่อยจะเหลือร่องรอยพวกนี้ ที่ผ่านมาตำราพิชัยสงคราม ฉบับรูปภาพที่พบมี 4 ฉบับ แปลแล้วมี 3 ฉบับ เป็นศาสตร์แต่ละอย่างเพื่อรวบรวมไว้ใช้ในการทำสงคราม

และตำราฯนี้ยังแสดงถึงการสู้ศึกในสมัยโบราณที่แม่ทัพนายกองทุกคนจะต้องเรียนรู้ โดยได้อรรถาธิบายถึงการตั้งทัพแบบ 35 พยุหะ และ 21 กลศึก ที่่บันทึกไว้อย่างงดงามทั้งตัวหนังสือและรูปภาพลงสีที่วาดด้วยฝีมือช่างชั้นสูง รวมทั้งแสดงให้เห็นว่า ตำราพิชัยสงครามเล่มนี้ตกมาอยู่ที่เมืองเพชรบูรณ์ได้อย่างไร ที่นี่มีคำตอบ 

จากมณฑลสู่นครบาล ส่วนนี้น่าสนใจ ไม่แพ้ส่วนอื่นๆ เพราะประกอบไปด้วยประวัติศาสตร์ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ที่เกี่ยวโยงกับเมืองเพชรบูรณ์ ทั้งเรื่องศึกเจ้าอนุวงศ์  เรื่องการตั้งร่างสร้างมณฑลเพ็ชรบูรณ์และภาพถ่ายเก่า ทรงคุณค่า เรื่องการตั้งนครบาลเพชรบูรณ์ ที่มีจะมีการย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่เพชรบูรณ์ ช่วง พ.ศ. 2486-2487 ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และหลักฐานที่เชื่อว่า พระแก้วมรกตเคยมาประดิษฐานอยู่ที่เพชรบูรณ์ นั้นเป็นอย่างไร จริงหรือไม่ ต้องไปพิสูจน์ความจริงกันเอาเอง

เสาหลักเมืองเพชรบูรณ์ แสดงเรื่องราวประวัติความเป็นมาและความสำคัญของเสาหลักเมือง เป็นหลักศิลาจารึก” ที่ทรงคุณค่าทางด้านประวัติศาสตร์เมืองเพชรบูรณ์  คือศิลาจารึกเมืองเพชรบูรณ์หลักนี้ ได้ถูกจารึกขึ้นเมื่อปีมหาศักราช 948 ซึ่งมีอายุเก่าแก่ถึง 979 ปี เป็นอักษรขอม เป็นภาษาสันสกฤต เรื่องเกี่ยวกับพระศิวะ มีทั้จารึก ด้วยอักษรขอม ภาษาไทย และบาลี เสาหลักเมืองเพชรบูรณ์ เป็นแท่งเสาหินทรายสีเทา มีลักษณะปลายป้านโค้งมน

        กรมศิลปากรได้ทำการอ่านและแปลศิลาจารึกเสาหลักเมืองเพชรบูรณ์ โดยสรุปได้ความว่า เป็นการจารึกลงในเสาหินทรายสีเทาใน 2 ยุคด้วยกันคือ ครั้งแรกเป็นการจารึกในด้านที่ 1 เมื่อประมาณ 900 กว่าปีที่แล้ว ข้อความเป็นการสรรเสริญพระศิวะในศาสนาพราหมณ์ ส่วนครั้งที่ 2 เป็นการจารึกใหม่ในด้านที่เหลือ โดยจารึกหลังจากครั้งแรกประมาณ 500 กว่าปีและเป็นข้อความเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา กระดาษลอกลายและสำเนาคำอ่าน

จากเขาคณาถึงศรีเทพ จัดแสดงประวัติศาสตร์ของพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ตามห้วงเวลาต่าง ๆตั้งแต่ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่ขุดค้นพบร่องรอยมนุษย์ยุคเหล็ก ก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลายหลายแห่ง ซึ่งขุคค้นพบโครงกระดูก เครื่องประดับ เครื่องมือเครื่องใช้ อาวุธต่างๆฯลฯ โดยมีหุ่นจำลอง วิถีการใช้ชีวิตของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ให้ชม ส่วนที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ แสดงให้เห็นถึงร่องรอยการอยู่อาศัยของมนุษย์ ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ เรื่อยมา ที่มีอารยธรรมอินเดียโบราณและอารยธรรมทวารวดีอยู่รวมกัน จนกระทั่งมาถึงยุคของขอม โดยจัดแสดงเป็นภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว วัตถุสิ่งของ และรูปจำลองโบราณสถานต่าง ๆ ได้แก่ เขาคลังนอกซึ่งเป็นโบราณสถานทวารวดีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เขาคลังในที่มีคนแคระแบกสถูปถึง 5 หน้า ปรางค์ฤาษี ปราค์สองพี่น้องและปรางค์ศรีเทพ

 ซึ่งเมืองศรีเทพนี้ประเทศไทยได้เสนอชื่อต่อองค์การยูเนสโกขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ปลายปี 2565นี้จะทราบผลถ้าเมืองน้ได้เป็นมรดกโลกจริงๆ เพชรบูรณ์และเมืองศรีเทพจะมีชื่อเสียงดังกระหึ่มโลกอีกวาระ

ใครอยากชมบรรยากาศเมื่อวันวานของเมืองเพชรบูรณ์ เมื่อสมัย 60-80 ปีที่แล้วที่นี่ก็มี จำลองมาให้ชมอย่างสมจริง เช่น วงเวียนน้ำพุ หอนาฬิกา โรงหนังเพชรรามา ร้านกาแฟโกเซ่ ร้านถ่ายรูปวิจิตรศิลป์ ร้านสังฆภัณฑ์สูงเฮงหลี ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อพิบูลย์โภชนา ร้านขายวัสดุก่อสร้างโค้วกั้งแซ  ร้านเพชรบูรณ์สโตร์ และร้านอึ้งเซ่งเฮง ซึ่งทุก ๆ ร้านยังเปิดดำเนินการอยู่ และการเล่าถึงเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ตัวเมืองเพชรบูรณ์เมื่อ พ.ศ. 2511อันน่าตื่นเต้นด้วย

โรงหนังไทยเพชรบูล เป็นการจำลองบรรยากาศ และกลิ่นไอของโรงหนังโรงแรกของจังหวัดเพชรบูรณ์สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 มาไว้ให้ชม เริ่มตั้งแต่เก้าอี้ไม้ ที่ใช้นั่งดูหนังแบบดั้งเดิม และแสดงวิถีชีวิตหน้าโรงหนังด้วย เช่น ร้านอ้อยควั่น ร้านข้าวเกรียบว่าว ร้านน้ำแข็งกด ร้านถั่วคั่ว ฯลฯมีการเปิดเพลงมาร์ชสามัคคี 4 เหล่าก่อนหนังจะฉายเหมือนสมัยก่อน หนังที่ฉายคือเรื่อง “ความไข้ที่เมืองเพชรบูรณ์” ที่สร้างขึ้นจากบันทึกของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพฯ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ที่ได้เสด็จมาตรวจราชการที่เมืองเพรชบูรณ์ หล่มสัก หล่มเก่า และเมืองโบราณศรีเทพ เมื่อ พ.ศ. 2447 ซึ่งถือว่าเป็นเอกสารสำคัญชิ้นแรกที่ได้อธิบายสภาพบ้านเมืองไว้อย่างน่าชมเช่น วัดมหาธาตุ ซึ่งเป็นวัดที่สำคัญ และมีอายุยาวนาน ที่สุดของเพชรบูรณ์จัดแสดงสภาพ ตามยุคสมัยต่าง ๆ ตั้งแต่ สุโขทัย อยุธยา และธนบุรี โดยมีวัดมหาธาตุเป็นสื่อนำในการเล่าเรื่อง เพราะวัดมหาธาตุเป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองเพชรบูรณ์มาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ซึ่งมีเจดีย์พุ่มข้าวบิณฑ์อยู่ด้านหลังโบสถ์ และได้ขุดพบพระเครื่องจำนวนมาก รวมทั้งจารึกลานทองที่เขียนชื่อเมืองเพชรบูรณ์ไว้ตั้งแต่ พ.ศ. 1926 ว่า “เพชบูร” 

อุ้มพระดำน้ำ ถือเป็นประเพณีหนึ่งเดียวในโลก ของชาวเพชรบูณ์ ที่แปลกไม่เหมือนใคร แสดงถึงเรื่องราวความเป็นมาของพระพุทธมหาธรรมราชา ความจริงที่ว่า ทำไมผู้ที่เป็นเจ้าเมืองถึงต้องอุ้มพระดำน้ำด้วย มีกุศโลบาย แยบยลซ่อนเร้นไว้กันแน่ มีรูปภาพแผ่นพับและรูปการจัดงานในแต่ละยุคสมัยจัดแสดงไว้ และมีภาพสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่เคยเสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรพิธีอุ้มพระดำน้ำ เมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ.2554

เขาค้อในปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันงามงด  หากแต่ในอดีตที่นี่เคยเป็นสมรภูมิเหตุการณ์สู้รบระหว่างรัฐบาลไทยกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2511-2525 โดยมี เรื่องราวการสู้รบที่ดุเดือด มีภาพถ่ายและและภาพเคลื่อนไหวที่ได้ถ่ายจากเหตุการณ์จริงให้ชม และยังได้บันทึกเรื่องเกี่ยวกับพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่9 ที่ได้เสด็จพระราชดำเนินมาที่เขาค้อถึง 4 ครั้งและได้พระราชทานยุทธศาสตร์การพัฒนา จนสามารถเอาชนะผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ได้อย่างเด็ดขาด

หอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย  มีวิทยากรบริการนำชมเป็นหมู่คณะ ทุกวัน ในเวลา 9.00-16.00 น.  โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด โทรศัพท์จองเวลาล่วงหน้าที่ โทร056-721-523 

ถ้าผ่านไปเพชรบูรณ์ ครั้งต่อไปอย่าลืมบรรจุหอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย ไว้ในหมุดหมาย แรกๆแห่งการเดินทางของคุณ…เมื่อคุณได้รู้จักประวัติศาสตร์ ของดินแดนแห่งนี้ คุณจะหลงรักแผ่นดินแห่งนี้เพิ่มมากขึ้นอีกมากมาย

………………….

ขอบพระคุณเอื้อเฟื้อข้อมูล

ดร.วิศัลย์ โฆษิตานนท์

บัณฑิต พันธุ์ฤทธิ์

สุรศักด์ คงควร

About the Author

Share:
Tags: วัด ประเพณี วัฒนธรรม การละเล่น / ฉบับ พย 66 / หอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย / เพชรบูรณ์ / โบราณคดี /

เรื่องราวอีกมากมายที่คุณจะชอบ