ฟาร์มตู้เทรนด์ เกษตรกรรมแห่งอนาคต

ช่วงนี้เราอาจจะเห็นเกษตรกรรมในระบบปิดที่ควบคุมการเจริญเติบโตของพืชด้วยเทคโนโลยีโดยไม่พึ่งธรรมชาติผุดขึ้นมากมายการพัฒนาฟาร์มเกษตรในระบบปิดนี้กำลังขยับตัวจากภาคธุรกิจขนาดย่อมสู่ธุรกิจระดับครัวเรือน ที่กระตุ้นให้เราหันมาผลิตเพื่อบริโภคด้วยตนเอง

โปรเจ็กต์ล่าสุดที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็คือ CropBox ฟาร์มเกษตรแบบปิดในตู้คอนเทนเนอร์ที่ใช้พื้นที่เพียง ๓๐ ตารางเมตรก็สามารถผลิตอาหารเองได้ ฟาร์มตู้สี่เหลี่ยมนี้จึงเหมาะกับวิถีคนเมืองที่มีพื้นที่ไม่มาก ไม่มีผืนดินทำการเกษตร แหล่งน้ำและสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ไม่มีคนมากในการจัดการ ไปจนถึงไม่มีทุนทรัพย์มหาศาลในการทำฟาร์ม เพราะเจ้า CropBox นี้เป็นฟาร์มปิดแบบ Hydroponic Greenhouse ที่ปลูกพืชด้วยระบบใช้น้ำ แถมยังใช้ปริมาณน้อยเพราะมีการรีไซเคิลน้ำหมุนเวียนตลอดเวลา ภายในตู้คอนเทนเนอร์แบ่งแปลงปลูกพืชผักออกเป็นชั้นๆ เราสามารถเลือกพืชผักหลากชนิดได้ตามต้องการ เรื่องอุณหภูมิและแสงสว่างนั้น CropBox ได้รับการออกแบบในการควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมแก่การเจริญเติบโตของพืชมาเป็นอย่างดี มีการใช้ไฟหลอด LED ที่สามารถปรับโทนสีและความเข้ม ของแสงเพื่อเร่งการเจริญเติบโตของพืช รวมถึงทำให้พืชเจริญเติบโตสมบูรณ์ที่สุดได้ด้วย แถมยังประหยัดไฟอีกต่างหาก การดูแลฟาร์มสามารถดูแลได้เองเพียงคนเดียวและควบคุมการทำงานต่างๆ ผ่านทาง Smartphone ได้ด้วย การเตรียมพื้นที่สำหรับฟาร์มแบบนี้ก็ไม่ยุ่งยากอะไร เพียงมีพื้นที่แล้วยกตู้คอนเทนเนอร์มาตั้ง หรือหากต้องการย้ายไปจนถึงรื้อถอนก็แค่ย้ายตู้ออกไป สะดวกง่ายดายและประหยัดเวลามาก

CropBox คิดค้นขึ้นโดยบริษัท Williamson Greenhouses ซึ่งมีฐานหลักอยู่ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา ฟาร์มระบบปิดขนาดเล็กที่ส่งเสริมให้มนุษย์พึ่งพาตนเองได้นี้กำลังเป็นที่นิยมในประเทศแถบตะวันตกมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากระดับครัวเรือนไปจนถึงธุรกิจเล็กๆ เช่น ร้านอาหาร หรือโรงแรมเป็นต้น พืชผักที่ได้จากฟาร์มนอกจากจะสดใหม่เสมอแล้ว ยังสะอาดปลอดภัยไร้สารพิษนี่อาจเป็นทางเลือกของการเกษตรแบบพึ่งตนเองในอนาคตที่สามารถลดปัญหาได้รอบด้าน แม้กระทั่งการทำการเกษตรที่ก่อมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งยังคงเป็นปัญหาในปัจจุบันสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมลองเข้าไปดูกันได้ที่ www.cropbox.co