Saturday, May 18, 2024
เที่ยวไปรักษ์ไป บทความแนะนำ

เสียงหัวเราะที่ “เกาะทะลุ”

ปลาเสือฝูงใหญ่กรูเข้ามาทักทายนักท่องเที่ยว

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เกาะเหงาๆจะกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คึกคัก แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากหากทุกคนมีสำนึกรักษ์ในธรรมชาติที่เป็นสมบัติของทุกๆ คนเหมือนกัน

จากร่องนำที่เคยแหลกลาญเพราะการทำประมงแบบใช้ระเบิด วันนี้มีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นที่เกาะทะลุแล้ว นั่นคือ สวนปะการังใต้น้ำขนาดใหญ่ กินอาณาบริเวณกว้างไกลสุดตาและก็เป็นสวนสาธารณะที่ใครๆ ก็มีโอกาสแหวกว่ายไปชื่นชมได้

“นี่ไม่ใช่หาดทรายนะ เป็นหาดแคลเซียม” ลุงปรีดาหมายถึงชายหาดสีขาวๆ ที่อยู่หน้าอ่าวใหญ่ ก่อนจะอธิบายต่อว่า วัตถุที่เล็กละเอียดราวกับเม็ดทรายนั้น แท้จริงคือผงปะการังที่ตายแล้ว โดนคลื่นซัดจนป่นเป็นแป้ง

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เกาะเหงาๆ จะกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คึกคัก แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยาก หากทุกคนมีสำนึกรักษ์ในธรรมชาติที่เป็นสมบัติของทุกๆ คนเหมือนกัน ดังนั้นหากมีโอกาส ต้องไม่พลาดมาเยือนเกาะทะลุ เพราะนอกจากจะได้ทำกิจกรรมสนุกๆ อย่างดาน้ำพายเรือคายัค แล่นเรือใบ ตกหมึก เล่นน้ำฯลฯ นักท่องเที่ยวยังสามารถร่วมกิจกรรมเพื่อการอนุรักษ์อย่างการปลูกปะการังได้ด้วย

นักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบการผจญภัยน่าจะชื่นชอบที่นี่ เพราะเนินป่าที่ครอบคลุมพื้นที่เกาะเกือบทั้งหมดมีความหลากหลายทางชีวภาพของพืชและสัตว์ ที่รอให้นักท่องเที่ยวหัวใจสีเขียวเข้าไปสัมผัส

เกาะทะลุมีพื้นที่สีเขียวอยู่เกือบ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ เป็นไม้ยืนต้นเสียส่วนใหญ่ อีกส่วนคือสวนมะพร้าวที่ชาวบ้านในอดีตเคยปลูกไว้เมื่อมองภาพรวมแล้วจะเห็นป่าไม้ที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีทั้งพรรณไม้หายาก สมุนไพร สัตว์ป่า และสัตว์ประหลาดอย่าง “มังกรโคโมโด” ที่ลุงปรีดายืนยันว่า พบเห็นบ่อยครั้งบริเวณหลังเกาะ

การเดินป่าเพื่อศึกษาธรรมชาติใช้เวลาไม่นาน เพียง ๑-๒ ชั่วโมงก็เดินได้รอบเกาะแต่สิ่งสำคัญคือความรู้ระหว่างทางที่จะได้ เพราะตลอดเส้นทางล้วนมี “ความหมาย” แทรกอยู่ “ตรงนี้เรียกว่า อ่าวเต่า เพราะเต่าชอบ

ขึ้นมาไข่ที่นี่บ่อยๆ” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งหมายถึงอ่าวขนาดย่อมที่มีกองหินระเกะระกะ เขาบอกว่า “เต่ากระ” จะขึ้นมาไข่ทุกปี ช่วงวันพระจันทร์เต็มดวง ไข่ครั้งหนึ่งราว ๑๐๐ กว่าใบ ปีหนึ่งก็หลายหน แต่ไม่วายมีคนชั่วแอบมาขโมยไข่เต่าไปขาย เดือดร้อนลุงปรีดาและคนบนเกาะต้องมาเฝ้ากันอย่างจริงจัง

“บางทีความโลภมันก็ห้ามใครไม่ได้ เราไปขวางความโลภ เราจะมีศัตรูมาก เรานั่งอยู่ในโลกของเรา ในประเทศไทยของเรา เราได้ทำความดีให้สิ่งมีชีวิตที่กำลังจะสูญพันธุ์ นี่คือเป้าหมายของเรา”

นับตั้งแต่ถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินบนเกาะทะลุ ลุงปรีดาและครอบครัวก็ช่วยกันฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลให้กลับคืนมา แน่นอนว่าที่นี่ก็ดูเหมือนจะเป็น “บ้านหลังสุดท้าย” ที่เต่ากระวางใจเหมือนกัน นั่นจึงทำให้ทุกๆ ปีมีเต่ากระขึ้นมาวางไข่อย่างต่อเนื่อง จนลุงปรีดาต้องสร้างโรงเรือนเพื่ออนุบาลเต่ากระขึ้นมา

ตกหมึกยามเย็นเป็นกิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยว

ทว่า การปล่อยให้ลูกเต่าฟักเองตามธรรมชาติอาจมีโอกาสรอดเพียง ๑ เปอร์เซ็นต์ดังนั้น ลุงปรีดาจึงประสานไปยัง พลเรือตรีวินัย กล่อมอินทร์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการในขณะนั้น ส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยดูแลและอนุบาลลูกเต่ากระ โดยเกาะทะลุสนับสนุนเจ้าหน้าที่สถานที่ และอุปกรณ์ในการดำเนินงาน ถือเป็นการสนองพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตามโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี จนวันนี้มีเต่ากระที่ได้รับการอนุบาลถูกปล่อยลงทะเลไปแล้วหลายร้อยตัว

ส่งพระอาทิตย์ลับลาขอบฟ้ามองเห็นแผ่นดินประจวบฯ อยู่ลิบๆ
ที่นี่คือแหล่งอนุบาลเต่ากระในพระบรมราชูปถัมภ์

การเพิ่มจำนวนประชากรสัตว์นํ้าหายากอย่างเต่ากระ ก็เป็นหน้าที่ที่ลุงปรีดายืดอกว่าจะดูแลให้ดีที่สุด เพราะสิ่งที่เขาหวัง นั่นคือกฎหมายคุ้มครองสัตว์ทะเลหายากที่ใกล้จะสูญพันธุ์ และการเป็น “ศูนย์ฟื้นฟูพันธุกรรมสัตว์ทะเลหายาก”

“ผมรู้ว่ามันยาก อนุรักษ์ มันรักษ์ ร. เรือรักษ์ ร. เรือมันพูดยาก มันจะกลายเป็น ลัก ล. ลิง ตลอดเวลา เพราะลัก ล. ลิงมันพูดง่าย ๑๐ คนจะพูดได้ชัดสักกี่คนล่ะ รักษ์ ร. เรือน่ะเพราะฉะนั้นผมถึงบอกว่า ที่นี่ไม่ใช่อนุรักษ์แค่ไม่ทำลายเท่านั้นเอง”

ในขณะที่ลุงปรีดาและผู้คนบนเกาะพยายามช่วยกันดูแลทรัพยากรธรรมชาติให้สมบูรณ์ แทบทุกวันในเวลาที่พระจันทร์อ่อนแรง แสงไฟจากเรือลำใหญ่ที่คอยจ้องจะหาผลประโยชน์ในน่านนํ้าก็มักจะสว่างวาบขึ้นมานั่นจึงเป็นที่มาของการ “ตื่นรู้” อยู่ตลอดเวลาของคนบนเกาะ

About the Author

Share:
Tags: ธรรมชาติ / Thailand / เกาะทะลุ / ประจวบคีรีขันธ์ / เที่ยวไทย /

เรื่องราวอีกมากมายที่คุณจะชอบ