Amazing Museum Must Go

พูดถึงพิพิธภัณฑ์ชื่อดังของโลก หลายคนคงนึกถึง Louvre แห่งมหานครปารีส หรือไม่ก็ Metropolitan Museum of Art แห่งมหานครนิวยอร์ก และอีกไม่น้อยที่ชอบ British Museum ที่มหานครลอนดอน แต่นักท่องพิพิธภัณฑ์ตัวจริง พวกเขารู้ดีว่ายังมีพิพิธภัณฑ์ดีๆ กระจายตัวอยู่ทั่วมุมโลกเต็มไปหมด มาดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง

Museum of Islamic Art & National Museum of Qatar 

ทั่วทั้งประเทศกาตาร์มีพิพิธภัณฑ์อยู่ประมาณ ๕-๖ แห่ง แต่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะอิสลามถือว่าเป็นสุดยอดพิพิธภัณฑ์อันทรงคุณค่าและน่าเที่ยวของกาตาร์ นักท่องพิพิธภัณฑ์เชื่อกันว่านี่คือพิพิธภัณฑ์ดีที่สุดในแถบอาหรับเลยก็ว่าได้  

ที่นี่มีของเก่าและศิลปวัตถุโบราณจากอิหร่าน อิรัก ตุรกี ซีเรีย อัฟกานิสถาน และอียิปต์ ตั้งแต่ศตวรรษที่ ๖ จนถึงช่วงศตวรรษที่ ๑๗ จำนวนมาก ทั้งเซรามิก พรมเก่าแก่ กระเบื้องเครื่องเคลือบ เครื่องเงิน เครื่องทอง งานไม้แกะสลักชั้นดี และบางชิ้นเป็นผ้าไหมทอมืออายุกว่า ๖๐๐ ปี  อีกไฮไลต์คือชุดนักรบโบราณนั่งบนหลังม้าที่จัดว่าสมบูรณ์แบบมากที่สุดแห่งหนึ่ง เรียกว่าถ้ามีใจให้พวกของโบราณเก่าเก็บเป็นทุนเดิม เชื่อเถอะว่าคุณจะขลุกอยู่ที่นี่ได้เป็นวัน

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างอยู่ริมท่าเรือทางตอนปลายของอ่าวโดฮา อยู่ใกล้กับทางเดินเลียบทะเล แถมอาคารนี้ยังดูโดดเด่นแปลกตา สร้างเสร็จเมื่อตอนปี ๒๐๐๖ แต่กว่าจะตกแต่งภายในอย่างสมบูรณ์ ก็ได้ฤกษ์เปิดให้ผู้คนเข้ามาชมกันเมื่อปลายปี ๒๐๐๘  ตัวอาคารถือว่าเป็นตึกที่สร้างอย่างโดดเด่น ด้วยแนวคิดของผู้ออกแบบอย่างไอ. เอ็ม. เพ (I. M. Pei) ที่อยากให้เป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันตกกับแบบอย่างของศาสนาอิสลามเข้าด้วยกัน

พูดถึงสถาปนิกผู้ออกแบบอาคารนี้ เขาเป็นคนเดียวกับที่ออกแบบพีระมิดให้แก่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ในฝรั่งเศสนั่นเอง อาจจะดูเหมือนไม่ซับซ้อน แต่เขาบอกว่านี่คืองานชิ้นยากที่สุดชิ้นหนึ่งของเขาเลยทีเดียว เขาใช้ชีวิตในบั้นปลายเดินทางเรียนรู้สถาปัตยกรรมในโลกอิสลาม และลงมือออกแบบพิพิธภัณฑ์แห่งนี้โดยได้แรงบันดาลใจจากมัสยิดไอบินตูลุนในอียิปต์และพระราชวังอัล ฮัมบรา ในสเปน

แต่ไม่กี่ปีมานี้ กาตาร์ก็สร้างความฮือฮาอีกครั้งเมื่อเปิดตัวพิพิธภัณฑ์แห่งชาติกาตาร์ ตัวพิพิธภัณฑ์ใช้เวลาสร้างยาวนานถึง ๘  ปี ตัวอาคารอวดสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น โดยมีฌอง นูแวล สถาปนิกชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ออกแบบ เขาได้แรงบันดาลใจมาจากกุหลาบทะเลทรายที่พบเจอในทะเลทรายกาตาร์ โดยใช้แผ่นกลมๆ จำนวน ๕๓๙ แผ่น มาทำเป็นทั้งฐานและรับน้ำหนักตัวอาคารรูปทรงประหลาดตา เรียกว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่สะท้อนความเป็นกาตาร์อย่างแท้จริง

แค่ด้านนอกว่าอะเมซิ่งแล้ว พอเข้าไปด้านในยิ่งน่าตื่นตาตื่นใจ เพราะมีห้องหับกว่า ๑๐ ห้อง มีทางเดินเชื่อมแต่ละห้องเข้าด้วยกัน มีการฉายหนังสั้นลงบนผนังทุกด้าน ทำให้ดูมีชีวิตชีวาและมีความเคลื่อนไหว กลายเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์มีชีวิตเรื่องราวที่พิพิธภัณฑ์นำมาแสดงบอกเล่าประวัติศาสตร์ความเป็นมาของกาตาร์ตั้งแต่ครั้งอดีตที่มีสัตว์หน้าตาแปลกๆ รวมถึง Oryx สัตว์ตระกูลเดียวกับกวางที่เป็นสัตว์ประจำชาติของกาตาร์ ยังมีเรื่องราวในทะเลทราย การเดินเรือหาปลาและงมไข่มุก ที่เป็นวิถีชีวิตของชาวกาตาร์มากว่าพันปี จนมาถึงยุคที่กาตาร์เจอน้ำมัน ที่ทำให้เป็นอีกประเทศหนึ่งในแถบอ่าวเปอร์เซียที่ร่ำรวยน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติถือว่ามีเยอะขนาดเป็นท็อปทรีของโลกรองจากรัสเซียและอิหร่าน

National Museum of Anthropology, Mexico City

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ากรุงเม็กซิโกซิตี้มีพิพิธภัณฑ์มากกว่า ๑๐๐ แห่ง คนเม็กซิโกเขาบอกว่าเป็นเมืองที่มีจำนวนพิพิธภัณฑ์มากเป็นอันดับ ๒ ของโลกรองจากปารีสเชียวนะ แต่พิพิธภัณฑ์มานุษยวิทยาและประวัติศาสตร์แห่งชาติ (National Museum of Anthropology) ของเม็กซิโก ถือว่าเป็นสุดยอดพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ในหมวดจำเป็นต้องไป 

ที่นี่จะช่วยคุณวาดภาพอดีตและประติดประต่อประวัติศาสตร์ของเม็กซิโก ตั้งแต่ยุคชาวโอลเม็ค  ชาวมายา ชาวแอซเทค และอีกหลายเผ่าพันธุ์ที่ก่อสร้างอารยธรรมเมโสอเมริกา เรียกว่าฉายภาพให้เห็นว่าก่อนยุคที่สเปนเข้ามาปกครองในแถบนี้อารยธรรมเคยรุ่งเรืองขนาดไหน

พิพิธภัณฑ์นี้ค่อนข้างจะใหญ่พอสมควร ด้านในมี ๒๐ กว่าห้อง ที่จะพาทุกคนย้อนไปดูอดีตในช่วงหลายพันปีของเม็กซิโก ด้านในจะแบ่งเป็นโซนๆ ตามแต่ละยุค มีหลายมุมในพิพิธภัณฑ์ที่ผู้คนไปยืนออกัน ไม่ว่าจะเป็นตรงแท่งหินสกัดขนาดใหญ่ที่เป็นเทพขอฝนของชาวแอซเทค ยังมีวัตถุโบราณ ถ้วยชาม รูปปั้น รูปแกะสลัก เหรียญที่เกี่ยวกับเทพ

รวมถึงภาพแกะสลักนูนต่ำช่วยบอกเล่าเรื่องราวในอดีต ส่วนด้านบนเป็นการแสดงวิถีชีวิตของชนเผ่ากว่า ๕๐ เผ่าในอดีต ผ่านเสื้อผ้าอาภรณ์ เครื่องดนตรี และเครื่องใช้ไม้สอยภายในบ้าน

แต่มุมไหนก็ไม่ฮอตเท่าสโตน ออฟ เดอะ ซัน (Stone of the Sun ) ที่หลายคนเชื่อว่าเป็นปฏิทินโบราณของชาวแอซเทค แผ่นหินสกัดทรงกลมขนาดใหญ่ช่างเข้มขลังเหมือนมีมนตราสะกดให้นักเดินทางทุกคนหยุดมองในทุกรายละเอียดที่อยู่ด้านใน แผ่นหินแกะสลักนูนต่ำชิ้นนี้เผยให้เห็นถึงภูมิความรู้ที่ก้าวล้ำทางดาราศาสตร์ของผู้คนในอดีต โดยบอกเล่าถึงความเชื่อของชาวแอซเทคที่มีต่อโลก

Egyptian Museum, Cairo

หนึ่งในพิพิธภัณฑ์เจ้าเสน่ห์ของโลกต้องยกให้พิพิธภัณฑ์อียิปต์ ถึงอลังการสู้ลูฟวร์และเฮอร์มิเทจไม่ได้ แต่ข้าวของด้านในก็ยิ่งใหญ่ในสายตาชาวโลกเสมอ นั่นเพราะพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะพาทุกคนย้อนกลับไปสัมผัสอารยธรรมและประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ของแผ่นดินไอยคุปต์

ที่นี่มีโบราณวัตถุรวมกันมากกว่า ๑ ล้านชิ้น แต่ข้าวของในพิพิธภัณฑ์ทุกชิ้นอายุรวมกันอาจจะมากกว่าลูฟวร์รวมกับเฮอร์มิเทจซะอีก มีทั้งรูปปั้นเทพเจ้า เสาหิน และแผ่นศิลา ไปจนถึงห้องที่แสดงสมบัติของตุตันคาเมน ฟาโรห์หนุ่มที่คนรู้จักมากที่สุดในโลก 

และใครที่ใฝ่ฝันอยากเห็นมัมมี่ ก็ต้องเข้าไปดูที่ห้องแสดงมัมมี่ที่มีของจริงให้ดู แค่ฟังยังดูเล้นลับเลย บินไปดูของจริงดีกว่าแล้วคุณจะเห็นด้วยว่าที่นี่เลอค่าจริงๆ

แต่ถ้าใครไปอียิปต์ในปี ๒๐๒๓ ข้าวของในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็จะถูกย้ายจากไคโรไปอยู่ที่ Grand Egyptian Museum ที่กิซ่าแทน แน่นอนว่าเมื่อเสร็จสมบูรณ์พิพิธภัณฑ์แห่งใหม่นี้จะกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ว่ากันว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในโลก

นี่คือสุดยอดพิพิธภัณฑ์ที่นักท่องพิพิธภัณฑ์ไม่ควรพลาด และอยู่ในหมวดจำเป็นต้องไป