Monday, May 20, 2024
ศิลปะ ชื่นชมอดีต บทความแนะนำ

ดินแดนแฟนตาซี ของ หม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์

นิตยสารอนุรักษ์ ฉบับที่ 62
เรื่อง/ภาพ: ตัวแน่น

‘CACHE-CACHE’ ในภาษาฝรั่งเศสแปลว่า ‘ซ่อนหา’ ยังไปพ้องเสียงกับ ‘Cuscus’ ชื่อเรียกของสัตว์ประหลาดซึ่งมีหน้าตาประมาณตัวในภาพ
นี่เป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า เราว่าไม่ เหตุเพราะหม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ท่านเป็นผู้เจาะลึกในศาสตร์ที่ท่านศึกษา ซึ่งตัว Cuscus สำหรับคนส่วนใหญ่อย่าว่าแต่รู้จักเลย ตั้งแต่เกิดมาน่าจะไม่เคยได้ยินชื่อด้วยซ้ำ 

ในชนบทที่ห่างไกลของประเทศฝรั่งเศสท่ามกลางแมกไม้ ลำธาร และขุนเขาอันบริสุทธิ์ มีเมืองเก่าแก่อายุนับพันปีอยู่แห่งหนึ่งซึ่งถูกเรียกขานมาอย่างยาวนานว่า Annot ตั้งอยู่ในใจกลางหมู่ชะง่อนหินสูงชัน ณ สถานที่ลึกลับแห่งนี้ที่คนต่างถิ่นน้อยคนนักจะเคยมีโอกาสย่างกรายมาสัมผัสกลับกลายเป็นที่ต้องพระทัยของสุภาพสตรีผู้สูงศักดิ์จากแดนไกล หม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร พระธิดาเพียงพระองค์เดียวของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต และหม่อมราชวงศ์พันธุ์ทิพย์ บริพัตร 

ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๓ หม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ ทรงเลือกที่จะประทับเป็นการถาวร ณ เมือง Annot ในบ้านโบราณอันเคยเป็นสถานที่อาศัยของคนเลี้ยงแกะ บ้านหลังนี้ตั้งอยู่บนเนินเขากว้างขวางมีทิวทัศน์สวยงามทอดยาวสุดลูกหูลูกตาไปบรรจบยังแม่น้ำ Vaire จากบ้านแบบดั้งเดิมท่านหญิงทรงปรับปรุงต่อเติมเคหสถานแห่งนี้ให้ทันสมัยเหมาะแก่การอยู่อาศัย มีการปลูกพรรณไม้นานาชนิดทั้งพืชผักสวนครัว และหมู่ไม้ดอกสีสันสวยสดไว้รายรอบบ้าน ทั้งยังมีสมาชิกครอบครัวร่วมชายคาเป็น สุนัข แมว และนกแก้วหลากหลายสายพันธุ์ที่สามารถโผบินไปมาได้อย่างอิสระภายในบ้าน สำหรับผู้ที่มีใจรักธรรมชาติอย่างท่านหญิงแล้ว เนินเขาแห่งนี้ไม่ต่างอะไรกับ สวนสวรรค์อีเดน หรือป่าหิมพานต์โดยแท้ 

หม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร

นอกจากเรื่องพฤกษศาสตร์ ชีววิทยา ที่เกี่ยวข้องกับพืช และสัตว์แล้ว หม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ ยังทรงชื่นชอบในศาสตร์แขนงอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ฟิสิกส์ วรรณกรรม ปรัชญา ดนตรี ทัศนศิลป์ โดยได้ทรงศึกษาอย่างลึกซึ้งทั้งจากมหาวิทยาลัย และด้วยพระองค์เอง จนนับได้ว่าเป็นปราชญ์ผู้แตกฉานในทุกสาขาที่ทรงสนพระทัย การันตีได้จากปริญญาเอกสาขาวรรณคดี จากมหาวิทยาลัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และสาขาประวัติศาสตร์ศิลปะจากมหาวิทยาลัยแห่งกรุงมาดริด ประเทศสเปน อีกทั้งท่านหญิงยังเคยเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยมาดริด และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอยู่พักใหญ่ 

ครั้นได้ลงหลักปักฐานอยู่ที่ Annot ท่านหญิงทรงตั้งพระทัยที่จะทุ่มเทเวลาให้กับการสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมในรูปแบบแฟนตาซีเหนือจริงที่ทรงชื่นชอบ ด้วยความรู้ด้านทฤษฎีศิลปะอันทะลุปรุโปร่งถึงขั้นดอกเตอร์ หมุดหมายต่อไปคือการฝึกปรือฝีมือทางด้านปฏิบัติให้ชำนิชำนาญจนสามารถถ่ายทอดจินตนาการออกมาเป็นรูปธรรมได้อย่างสมอารมณ์หมาย

งานจิตรกรรมในยุคแรกเริ่มของหม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์จึงดูคล้ายจะเป็นงานทดลองค้นคว้าหาตัวตน โดยผลงานส่วนใหญ่มักเป็นภาพโขดหินอันสลับซับซ้อนและผลึกแร่ต่างๆ วาดแบบรางๆ ในเฉดสีแบบโมโนโทน ภาพเหล่านี้ดูเป็นรูปแบบใหม่ที่ผสมผสานระหว่างสไตล์ตะวันตกที่ศิลปินจีนใช้วาดทิวทัศน์ด้วยหมึกดำสีเดียวบนกระดาษม้วน กับสไตล์ตะวันออกแบบเรเนสซองส์ ที่ศิลปินยุโรปในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาใช้วาดพรรณนาธรรมชาติ ดังเช่นภาพภูเขาและผืนน้ำปกคลุมไปด้วยเมฆหมอก ซึ่งเป็นฉากหลังของภาพโมนาลิซ่าอันโด่งดัง ผลงานของท่านหญิงในยุคนี้จึงดูคล้ายเป็นการเชื่อมโยงแนวทางศิลปะของทั้งสองอารยธรรมไว้โดยได้แรงบันดาลใจจากทัศนียภาพอันตื่นตาตื่นใจของผาหินที่ท่านหญิงได้พบเห็นอยู่รายรอบเคหสถานแห่งใหม่ในประเทศฝรั่งเศส

ฉากหลังถูกวาดด้วยเทคนิคเดียวกับภาพหินในยุคเก่าก่อน คู่สี ชมพู-เขียว เฉดที่เป็นเอกลักษณ์นี้ก็ยังเป็นคู่สีที่ท่านหญิงโปรดที่สุด

นอกจากภูผาหินที่ยิ่งใหญ่ อีกหนึ่งแรงบันดาลใจใน Annot ที่ยากจะมองข้าม คือสีสันของมวลหมู่พฤกษาที่แข่งขันกันชูช่อออกดอกผลิบานในฤดูร้อน ปรากฎการณ์ทางธรรมชาตินี้เปลี่ยนแปลงบรรยากาศอันอึมครึมวิเวกวังเวงของฤดูหนาวไปอย่างปลิดทิ้ง หม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ผู้ซึ่งหลงใหลในพืชพรรณและสรรพสัตว์เป็นทุนเดิม จึงต่อยอดจากเทคนิคที่ใช้วาดโขดหินซึ่งฝึกฝนจนช่ำชองแล้ว โดยการเพิ่มเติมสีสันและรายละเอียดลงไปจนส่วนประกอบที่เคยเป็นศิลาอันมืดทะมึนเหล่านั้นกลับกลายเป็นกลีบดอกใบของพฤกษาที่มีชีวิตชีวาสดใส ดั่งภาพ ‘CACHE-CACHE’ ผลงานจิตรกรรมเทคนิคสีน้ำมันบนผืนผ้าใบที่ท่านหญิงทรงสร้างสรรค์ไว้ในปี พ.ศ. ๒๕๑๘ ฉากหลังของภาพนี้ถูกวาดด้วยเทคนิคเดียวกับภาพหินในยุคเก่าก่อน แต่เมื่อถูกแทนที่ด้วยโทนสีเขียวและแต่งแต้มด้วยเส้นใบ มวลภาพทั้งหมดจึงดูเป็นหมู่ใบไม้ที่แทรกทับกันอย่างแน่นขนัด แต่ในขณะเดียวกันก็ยังให้ความรู้สึกฟูฟ่องล่องลอยและบางเบา

บริเวณจุดศูนย์กลางของภาพท่านหญิงได้วาดดอกไม้สีชมพูระเรื่อที่มีขอบกลีบเป็นสีเข้มเอาไว้ ด้วยคู่สีที่ถูกเลือกอย่างพิถีพิถันให้เฉดตรงกันข้ามกับฉากหลังสีเขียวตองอ่อน ดอกไม้ลักษณะคล้ายดอกชบาขนาดยักษ์ดอกนี้จึงดูโดดเด้งเหมือนจะทะลุออกมานอกภาพเป็นสามมิติ ซึ่งคู่สี ชมพู-เขียว เฉดที่เป็นเอกลักษณ์นี้ก็ยังเป็นคู่สีที่ท่านหญิงโปรดที่สุดและถูกนำมาใช้อยู่บ่อยๆ ในผลงานยุคต่อๆ มา

ส่วนตัวละครที่เหมือนจะโดดเด่นที่สุดในภาพด้วยดวงตาเบิกโพลงจ้องเขม็งมาที่ผู้ชมนั้น เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนฟูดูแปลกตาจะว่าหนูก็ไม่ใช่ กระรอกก็ไม่เชิง สัตว์ตัวนี้มีทีท่าเขินอาย ก้งโค้งตั้งท่าเตรียมพร้อมที่จะกระโดดหลบลี้หนีหายไปในดงใบไม้ได้ในทุกเวลา สมกับชื่อภาพ ‘CACHE-CACHE’ ในภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า ‘ซ่อนหา’ และชื่อนี้ก็ยังไปพ้องเสียงกับ ‘Cuscus’ ชื่อเรียกของสัตว์ประหลาดชนิดหนึ่งซึ่งมีหน้าตาประมาณตัวในภาพ แถมมีอยู่จริงในป่าดงดิบที่ทุรกันดารที่สุดของปาปัวนิวกินีและหมู่เกาะใกล้เคียง สัตว์หน้าตาเหมือนหมีผสมลิงชนิดนี้ไม่ค่อยมีใครพบเห็นเพราะออกมาจากที่ซ่อนเฉพาะตอนกลางคืนที่มืดมิดเพื่อหาผลไม้และจับสัตว์อื่นกินเป็นอาหาร Cuscus มีหางม้วนที่สามารถใช้จับกิ่งไม้แทนมือได้ พร้อมทั้งยังมีกระเป๋าหน้าท้องเพื่อใช้เลี้ยงลูกแบบเดียวกับจิงโจ้

นี่เป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า เราว่าไม่ เหตุเพราะหม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ท่านเป็นผู้เจาะลึกในศาสตร์ที่ท่านศึกษา ซึ่งตัว Cuscus สำหรับคนส่วนใหญ่อย่าว่าแต่รู้จักเลย ตั้งแต่เกิดมาน่าจะไม่เคยได้ยินชื่อด้วยซ้ำ แต่สำหรับท่านหญิง ท่านต้องรู้แน่ และทรงเลือกเอามาใส่ไว้ในภาพด้วยความตั้งใจ 

ภาพ CACHE-CACHE ยังแฝงไว้ด้วยความน่าสนใจอีกอย่าง หากใครมีโอกาสได้ยลผลงานจริงจะสังเกตได้ว่าท่านหญิงทรงมีเทคนิคที่แพรวแพรวมากกับการเคลือบภาพในขั้นตอนสุดท้าย โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ถูกเคลือบให้เรียบวาวดุจกระจก แต่หากสังเกตดูแสงที่ตกกระทบลงบนบริเวณบรรยากาศสีมืดครึ้มที่อยู่รายล้อมใบไม้ ดอกไม้ และตัว Cuscus จะเห็นพื้นผิวที่เป็นตะปุ่มตะป่ำอย่างจงใจเหมือนใช้เม็ดทรายโรยไว้ใต้น้ำยาเคลือบ รายละเอียดอันเล็กน้อยแต่ชาญฉลาดเช่นนี้ก่อให้เกิดมิติที่แตกต่าง เสริมส่งให้เนื้อหาหลักของภาพที่ศิลปินเน้นความสำคัญยิ่งเปล่งประกายเฉิดฉายขึ้นมากกว่าเดิม

จากผลงานเพียงชิ้นเดียวของ หม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ที่ได้รับการเชิดชูพระเกียรติให้เป็น บูรพศิลปินสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ สาขาทัศนศิลป์ เรายังได้ประจักษ์ถึงความพิถีพิถันได้มากเพียงนี้ เพราะทุกเนื้อหา ทุกระบวนการล้วนกลั่นกรองมาจากความรัก ความรู้ และความสามารถที่สั่งสมมายาวนานอย่างจริงจัง นี่จึงเป็นแบบอย่างว่าศิลปินที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น หากแค่ชอบและมีฝีมือคงยังไม่พอ พวกเขาต้องเปิดกว้างขวนขวายใฝ่หาความรู้ในศาสตร์แขนงต่างๆ เพื่อจะได้สร้างผลงานที่ไม่ตื้นเขิน แต่ลึกล้ำเป็นอมตะ

About the Author

Share:
Tags: art / หม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ / marsifoundation / marsi /

เรื่องราวอีกมากมายที่คุณจะชอบ