ปี ๑๙๕๔ ปิกัสโซ และหญิงสาววัย ๑๙ ปี ที่ละม้ายคล้ายกับบริจิตต์ บาร์โดต์เธอเป็นแบบวาดรูปให้เขานาน ๓ เดือน โดยไม่ยอมรับค่าจ้าง ปิกัสโซ่จึงมอบรูปเป็นที่ระลึกให้เธอ ๑ รูป โดยภายหลังเธอนำไปขายให้กับนักสะสมงานศิลป์ด้วยมูลค่า ๑๐ ล้านฟรังก์

UNVEILING THE MASTERPIECES:

LIVES AND WORKS

OF THE GREAT ARTISTS

สะพายกล้องส่องอัครศิลปิน

ซัลวาดอร์ ดาลี, ปาโบล ปิกัสโซ, เรเน่ มากริตต์, คีส์ แวน ดันเจน, เจฟฟ์ คูนส์, มาร์ค ชากาล, เฟอร์นันโด โบเทโร, โจอัน มีโร, ฌอง ค็กโต, ฟรานซิส เบคอน นี่เป็นครั้งแรกที่เหล่าอัครศิลปินสมัยใหม่ ต่างยุคสมัย ผู้มีชื่อเสียงระดับโลกมารวมเป็นหนึ่งเดียว เพื่อสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์และตัวตน อันนอกเหนือไปจากผลงานภาพเขียนที่ประเมินค่ามิได้ของเขาเหล่านี้

เรากำลังเท้าความถึงนิทรรศการศิลปะภาพถ่ายอันยอดเยี่ยมในชื่อชุด “Revealed” By Sofitel ผลงานภาพถ่ายของหลากหลายศิลปิน ในขณะที่กำลังสร้างสรรค์ผลงานศิลปะของตนเอง ซึ่งลัดฟ้ามาเปิดแสดงในประเทศไทย ณ เอส แกลเลอรี่บริเวณล็อบบี้ ของโรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพ สุขุมวิท ตลอดเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

โดยนิทรรศการชุด Revealed By Sofitel นี้เป็นความร่วมมือกันระหว่าง โรงแรมในเครือโซฟิเทลที่หรูหรา กับ “โอลิวิเย่ร์วิดไมแอยร์ ปิกัสโซ่” หลานชายแท้ๆ ของ ปาโบล ปิกัสโซ่ ซึ่งเป็นผู้ประพันธ์หนังสือ Picasso-Portrait Intime และยังเป็นภัณฑารักษ์ผู้คัดเลือกผลงานภาพถ่ายทั้ง ๓๐ ภาพที่นำมาจัดแสดงในนิทรรศการชุดนี้ด้วยตัวเอง

ปิกัสโซ่ กับว่าที่ภรรยา ใช้ช่วงเวลาดีๆ กับเจ้าสุนัขพันธุ์ดัลเมเชี่ยนภายในห้องทำงานของเขาในปี ค.ศ. ๑๙๖๐

จากเมืองน้ำหอมสู่สยามประเทศ

“โอลิวิเย่ร์ วิดไมแอยร์ ปิกัสโซ่” จบการศึกษาในด้านกฎหมายและทำงานในตำแห่งผู้ผลิตและที่ปรึกษาของธุรกิจผลิตสื่อทางด้านภาพและเสียงในกรุงปารีส อีกทั้งยังเป็นผู้พัฒนาศิลปินอีกหลายท่าน รวมไปถึงการทำงานเกี่ยวกับผลงานภายใต้ชื่อของคุณตา ปาโบล ปิกัสโซ่ของเขา และเมื่อเร็วๆ นี้เขาได้ร่วมผลิตและเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ทางด้านสารคดีศิลปะและโอเปร่าแบบร่วมสมัย รวมถึงนำเสนอภาพบุคคลที่เป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานชิ้นสำคัญในด้านแฟชั่น การออกแบบ การถ่ายภาพ สถาปัตยกรรม และดนตรี

“โอลิวิเย่ร์ วิดไมแอยร์ ปิกัสโซ่” มีศักดิ์เป็นหลานตา ด้วยเป็นบุตรชายของ ‘มายา’ ซึ่งเป็นบุตรสาวแท้ๆ ของปาโบล ปิกัสโซ โอลิวิเย่ร์ ยังเป็นผู้ประพันธ์หนังสือชื่อ Picasso – Portrait Intime ซึ่งจัดพิมพ์เมื่อปี ค.ศ.๒๐๑๓ ซึ่งได้ดัดแปลงมาจากรายการสารคดีเรื่อง Picasso – The Legacy ซึ่งจะได้รับการถ่ายทอดไปทั่วโลก

สำหรับทั้ง ๓๐ ภาพในนิทรรรศการ “Revealed” By Sofitel ชุดนี้คัดเลือกมาจากผลงานภาพถ่ายต่างๆ ที่เคยได้รวบรวมไว้โดยนิตยสาร Paris Match นิยสารรายสัปดาห์ชื่อดังของประเทศฝรั่งเศส ทั้งภาพถ่ายขาวดำ และภาพสีซึ่งล้วนถ่ายทอดเบื้องหลังการรังสรรค์ผลงานศิลปะของหลากหลายศิลปินในอิริยาบถที่เหล่าศิลปินเคยเปิดเผยต่อช่างภาพผู้บันทึกภาพนั้นใกล้ชิด

ขาวดำรำลึก

ภาพถ่ายอันทรงคุณค่าอันเป็นส่วนหนึ่งของการจัดแสดงในครั้งนี้ ได้แก่ ภาพถ่ายขาวดำของ ปาโบล ปิกัสโซ และว่าที่ภริยา ณ คฤหาสน์ ในเมืองคานส์ ในปี ค.ศ.๑๙๖๐ ซึ่งถ่ายโดย André Sartres ในภาพนั้นปิกัสโซกำลังมองดูสุนัขพันธุ์ดัลเมเชี่ยนซึ่งปีนมายืนบนตักของเขาด้วยใบหน้าอันยิ้มแย้มฉากหลังประดับประดาด้วยผลงานจิตกรรมที่สะบัดปลายพู่กันด้วยตัวเขาเอง

ปี ๑๙๕๐ อ็องรี มาติส ในวัยชรา แม้ไม่อาจจับพู่กันได้ไหว แต่ด้วยไฟรักในงานศิลปะ เขาจึงใช้วิธีตัดกระดาษเป็นงานเปเปอร์อาร์ตติดผนัง

ภาพที่แสดงให้เห็นถึงความทรงพลังในงานศิลป์ ก็คือ ภาพ ช่วงชีวิตสุดท้ายของจิตรกร ประติมากร และช่างพิมพ์ชาว ฝรั่งเศส อ็องรี มาติส ภาพนิ่งขาวดํานี้บันทึกขึ้นโดยช่างภาพ ชื่อ Walter Carone ในปี ค.ศ. ๑๙๕๐ ที่เมืองนิส ซึ่งเป็นช่วงเวลา เพียงไม่กี่เดือน ก่อนมาติสจะสิ้นลมหายใจ แม้ในขณะนั้น ตัวของมาติสจะมีอาการป่วยจนไม่สามารถจะตวัดปลายพู่กัน ไหว แต่ด้วยสปิริตและหัวใจรักในการทํางานศิลปะจวบจนชีวิต หาไม่ ก็ทําให้เขาได้ใช้วิธีตัดกระดาษเป็นโครงร่างของรูปแล้วนําไปติดบนฝาผนังแทนภาพเขียน

อีกหนึ่งภาพซึ่งสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไว้ได้อย่างเยี่ยมยอด เป็นผลงานการลั่นชัตเตอร์ของ Manuel Litran ไว้ในปี ค.ศ. ๑๙๕๕ เป็นการเก็บบันทึกระหว่างการทํางานของศิลปินเซอร์เรียลหมายเลขหนึ่งอย่าง ซัลวาดอร์ ดาลี ขณะที่ศิลปินผู้เอกอุในการ ผลิตผลงานศิลปะสไตล์เซอร์เรียลลิสม์ผู้นี้กําลังนั่งวาดภาพ ตัวแรดที่กําลังจ้องมองผลงานภาพเขียน La Dentelliére (หรือภาพคนถักลูกไม้) ของจิตรกรดังชาวดัตช์โยฮัน เฟอร์เมร์ ซึ่งปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ กรุงปารีส

ซัลวาดอร์ ดาลี ระหว่างสร้างสรรค์ผลงานในสวนสัตว์

และอีกภาพที่โลกต้องไม่ลืม ก็คืองานภาพถ่ายของ Izis ที่ แชะภาพ ปิแอร์ ซุลาจส์ ในปี ค.ศ.๑๙๖๗ ภายหลังจากที่ซุลาจส์ ผู้เป็นทั้งจิตรกร นักแกะสลัก และประติมากร นั้นถูกขับไล่ออก จากกลุ่มศิลปินที่มีแนวทางการสร้างผลงานแบบอิมเพรสชัน นิสต์ แต่เขาก็ยังมุ่งมั่นในสไตล์ของตัวเองซึ่งเป็นการเล่นกับการใช้สีดําและความงามของแสงเงา จนได้รับการขนานนามว่า The Painter of Black ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิธีการทํางานที่เขา ชื่นชอบที่สุด คือการวางเฟรมผ้าใบลงกับพื้นห้อง แล้วค้อมตัว ลงระบายสีดําบนเฟรมด้วยพู่กันหัวกว้างที่สั่งผลิตขึ้นพิเศษ

โลกมีสีของนักสร้างสรรค์

เจฟฟ์ คูนส์ ศิลปินผู้โด่งดังมากที่สุด และมีสนนราคา ผลงานสูงลิ่วที่สุดอีกท่านหนึ่ง ด้วยความโดดเด่นในสไตล์งาน ประติมากรรมสุดป๊อบ ก็มาปรากฏอยู่ในนิทรรศการศิลปะชุดนี้ ในภาพ เจฟฟ์ คูนส์กําลังยืนเปิดตัวผลงานตกแต่งรถยนต์ BMW สําหรับการแข่งขันรถยนต์ระดับตํานาน เลอ มองส์ 24 ชั่วโมง ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเซ็นตอร์ ออฟ ปอมปิดู กรุงปารีส ใน ปี ค.ศ. ๒๐๑๐ โดยภาพนี้เป็นผลงานการลั่นชัตเตอร์ของ Sébastien Micke

ในปี ค.ศ. ๑๙๕๙ ช่างภาพ Izis ได้เคยเก็บบันทึกภาพของ จิตรกร คีส์ แวน ดันเจน ยามที่เขาสเก็ตช์ ภาพเขียนบริจิต บาโดต์ ตั้งแต่เมื่อครั้งที่แม่นักแสดงสาวผู้นี้ยังเป็นโนเนมในวงการบันเทิง

ปี ๑๙๕๙ จิตรกร คีส์ แวน ดันเจน ระหว่างวาดภาพบริจิตต์ บาร์โดต์ ในยุคที่เธอยังเป็นแค่โนเนมในวงการ

คิธ แฮริ่ง ทุ่มเทสร้างผลงานในช่วงโค้งสุดท้ายของชีวิต

ภาพของคิธ แฮริ่ง ศิลปินสตรีตอาร์ต ถ่ายโดย YANN GAMBLIN ในปี ค.ศ. ๑๙๘๙ เนื่องจาก คีธ แฮริ่ง พบว่าตัวเขา ติดเชื้อ HIV ที่กําลังจะคร่าชีวิตเขาไปในวัย ๓๑ ปี ก็เลยกลาย เป็นแรงบันดาลใจให้เขาสร้างสรรค์ผลงานแบบว่องไวไม่หยุด พักเพื่อให้เกิดผลงานศิลปะได้มากเท่าที่จะทําได้

นิทรรศการภาพถ่ายชุด “Revealed by Sofitel จะจัด แสดงในโรงแรมโซฟิเทลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกไปจนถึง ปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ถ้าใครพลาดการเดินทางไปชม ที่บริเวณ เอส แกลเลอรี่ ของโรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพฯ สุขุมวิท แต่ยังสนใจก็ยังบินไปชมและเติมเต็มแรงบันดาลใจได้อีกสองแห่ง กล่าว คือ ที่โรงแรมโซฟิเทล ซิดนีย์ เว็นเวิร์ธ ในวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๘ ถึง ๒๙ มกราคม ๒๕๕๙ และที่โรงแรมโซฟิเทล เมลเบิร์น ออน คอลลินส์ ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ – ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๙